วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2559

Wild Tree Purple Varietal Black Tea of Dehong *Spring 2015 {Yunnan Sourcing}

 
 ผมมักจะชอบลองดื่มชาใหม่ๆแปลกๆไปเรื่อยครับ มันเป็นความสนุกและความสุขที่ได้หา ได้ลอง ชาตัวนี้เป็นชาดำ ที่ทำมาจากต้นชาม่วงที่ปลูกแบบปล่อยป่า จากแหล่งชา Dehong ในมลฑลยูนาน ดูจากข้อมูลชาแล้วผมไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่ครับ เนื่องด้วยราคาชาตัวนี้ไม่แพง(ราคาพอๆกับเยาวราช) ผมจึงไม่ได้หวังกับเกรดชาครับ ไปดูใบชากันดีกว่าครับ



   ใบแห้งนั้นมีกลิ่นหอมฟุ้งกระจาย เป็นกลิ่นของชาม่วง ผมอธิบายไม่ถูกว่าคล้ายกับอะไร แต่ชาม่วงหลายๆตัวก็มีกลิ่นเช่นนี้
  วิธีชง ผมใช้ก้ายหว่านชง ใช้น้ำ 80-90องศาเซลเซียส น้ำแรกชงกระตุ้นใบชาด้วยความรวดเร็ว น้ำ2ชงดื่ม แช่ชาประมาณ20วินาทีแล้วรินน้ำออก และเพิ่มเวลามากขึ้นในน้ำถัดไป


   แรกสัมผัสที่รับได้เมื่อดื่มคือกลิ่นหอมอบอวลในปาก กลิ่นเดียวกับที่ได้จากใบแห้ง แต่เมื่อชงแล้วกลิ่นเข้มข้นชัดเจนกว่าเดิม รสชาติมีความขมนิดๆ แล้วมีความหวานตามมา ไม่มีรสเปรี้ยวมากวนใจ ดื่มแล้วชุ่มคอมากๆ ส่วนเรื่องของความซับซ้อนในน้ำชานั้นมีน้อยมาก
   เสริมเรื่องกลิ่น เมื่อเที่ยบกับชาผู่เอ๋อแล้วชาประเภทนี้จะมีกลิ่นที่เข้มข้น และชัดเจนกว่าชาผู่เอ๋อ ฟุ้งกระจายในอากาศ รับรู้และสัมผัสได้ง่ายโดยที่ไม่ต้องใช้ความละเอียดมาก ส่วนชาผู่เอ่อนั้นจะรับรู้กลิ่นได้มากหลังดื่ม กลิ่นจะอยู่ในบริเวณปากและลำคอ ต้องใช้สมาธิและการสังเกตุสักหน่อย



    ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับท่านที่ต้องการความหลากหลายในการดื่มชานะครับ ราคาไม่แพง ถือว่าคุ้มค่าดีครับ

ช่วงเวลาแห่งความเศร้าโศก

บันทึกช่วยจำ
 วันที่ 13 ตุลาคม 2559 เป็นวันที่คนไทยสูญเสียบุคลอันเป็นที่เคารพรัก เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจมาอย่างช้านาน นานแค่ไหน สำหรับผมตั้งแต่ผมจำความได้ ผมเกิดในสมัยรัชกาลที่9 เกิดในจังหวัดชุมพรที่ครั้งหนึ่งน้ำเคยท่วมหนัก และท่วมทุกปี ถึงช่วงน้ำมาโรงเรียนก็ต้องปิดการสอน ผมต้องช่วยที่บ้านเก็บของขึ้นชั้นสองเพื่อหนีน้ำ และแล้วโครงการแก้มลิง หนองใหญ่ก็เกิดขึ้น หลังจากนั้นชุมพรก็น้ำไม่ท่วมอีกเลย นั่นเป็นความทรงจำในวัยเด็กที่เด็กคนหนึ่งสามารถรับรู้ได้ว่าเพราะโครงการของพระองค์ท่านบ้านเราจึงน้ำไม่ท่วมอีก
   วันที่ 15 ตุลาคม 2559 ช่วงเวลานี้เดินทางไปไหนก็พบแต่ความเศร้าโศก วันนี้ผมตั้งใจจะไปน้อมถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ แต่เขายังไม่เปิดให้ประชาชนทั่วไปน้อมถวาย แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะผมได้เห็นสิ่งดีๆเกิดขึ้นมากมายที่ท้องสนามหลวง ขอบันทึกเรื่องราวไว้ด้วยภาพถ่ายนะครับ













วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2559

Imperial Yunnan Dong Ting Bi Lua Chun White tea *Autumn 2015 (Yunnan sourcing)

              
               พักจากชาผู่เอ๋อมาดื่ม ปิหล่อชุนกันบ้างครับ ชาปิหล่อชุนตัวนี้ไม่ได้มาจากมลฑลเจียงซู แหล่งดังแห่งเมืองซูโจวนะครับ เป็นปิหล่อชุนจากแหล่งชาซิเหมา(Simao)มลฑลยูนาน(Yunnan) (ใครนึกภาพไม่ออกลองย้อนกลับไปดูแผนที่ในตอนที่ผ่านมานะครับ)เก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วง ราคานั้นค่อนข้างถูก ซื้อดื่มกันได้สบายๆแบบไม่ต้องคิดอะไรมากครับ



              ลองดูใบแห้งกันก่อน



              สีน้ำชาออกใสๆ



              เทคนิคการชงก็ไม่มีอะไรมากครับ ผมใช้น้ำร้อน 80-85องศาเซลเซียส ชงน้ำแรกกระตุ้นใบชาใส่น้ำแล้วรินออกเลย น้ำถัดมาชงดื่ม แช่นาน 10 15 20 25 วินาทีเพิ่มเวลาไปเรื่อยๆยิ่งน้ำท้ายๆก็แช่นานหน่อยครับ




              รสชาติ รสเด่นคือความหวาน หวานมากๆหวานเหมือนอ้อย มีความขมซ่อนอยู่เล็กน้อย ฝาดนิดหน่อย หลังดื่มลงคอความหวานค้างบริเวณโคนลิ้นและลำคอยาวนาน น้ำชามีความนุ่ม กลิ่นนั้นหอมออกสดชื่น คล้ายๆดอกไม้ที่กลิ่นอ่อนๆดมแล้วสดชื่น
              โดยรวมแล้วอร่อยดีครับดื่มแล้วเพลิดเพลินดี สดชื่น คุ้มราคาแน่นอนครับ



วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2559

1998 Menghai Factory Red Mark Red Ribbon และ 1991 Menghai 7542 (Private Order)

      เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาศเข้าร่วมชิมชา 7542 แบบ vertical test ไล่มาตั้งแต่ปี 2011 2008 2005 1998 1991 เลยครับ ไฮไลท์อยู่ที่ 7542 ปี 1998 และ 1991 ครับ งานนี้จดความรู้สึกตอนชิมไว้สั้นๆ ขอนำมาบันทึกไว้ที่นี่ครับ ในวันนั้นหลายคนมีความรู้สึกชอบ ไม่ชอบ แตกต่างกันไป บันทึกนี่ก็เป็นความรู้สึกส่วนตัวของผมนะครับ

       1998 Menghai Factory Red Mark Red Ribbon
        ตัวนี้ยังหาซื้อได้จากร้าน Tea Urchin ราคา 699$ (แพงมากกก) เป็นชาที่เก็บโกดังแห้งที่Taiwan รายละเอียดตามนี้เลยครับ ที่นี่
         ใบแห้ง 1998 Menghai Factory Red Mark Red Ribbon


       สีน้ำชา 1998 Menghai Factory Red Mark Red Ribbon


              รสชาติ
                  มีกลิ่นควันชัดเจน ฝาดนิดหน่อย กลิ่นออกคล้ายยาจีน ไม้เก่า ผลไม้แห้ง มีรสขมนิดๆ ขมแบบอร่อยดีครับ มีบอดีดีกว่าชา 7542 ปีใหม่ๆมาก มีความซับซ้อนในน้ำชา มีหลายๆรสชาติซ่อนอยู่ในนั้น มีความหวานในลำคอ หุยกานใช้ได้ โดยรวมอร่อยนะครับตัวนี้


        1991 Menghai 7542 (Private Order)
        ชาตัวนี้ได้มาจากร้าน EOT ปัจจุบันขายหมดไปแล้ว เป็นPrivate Order คือร้านชาที่ฮ่องกงสั่งโรงงานMenghai ผลิตขึ้นมาเป็นLOTพิเศษ ถูกเก็บในโกดังเปียกที่ฮ่องกง ประมาณ4-5ปี ก่อนถูกส่งมาเก็บมนโกดังแห้งที่ร้าน EOT ในมาเลเซีย รายละเอียดเพิ่มเติมอ่านได้ ที่นี่
          ใบแห้ง 1991 Menghai 7542 (Private Order)


                 สีน้ำชา


                  รสชาติ
                  ตัวนี้ยังมีกลิ่นอับๆของโกดังเปียกอยู่บ้าง กลิ่นออกไปทาง ยาจีน ดินๆหน่อย น้ำชามีความนุ่มชัดเจน หวาน แต่ไม่ลึกนัก ตัวนี้หลายคนบอกว่าดื่มยังไม่ลื่น ออกแสบคอ แต่สำหรับตัวผมไม่พบอาการนี้นะครับ โดยรวม ผมชอบ ตัว1998 มากกว่าครับ


วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2559

ชาผู่เอ๋อป่า 2014 Man zhuan Spring [ Mao Cha ] Tea Urchin

       สวัดดีครับ วันนี้นึกขึ้นมาได้ว่ามีชาตัวนี้เก็บไว้อยู่ และอยากดื่มพอดี ก็เลยจัดการถ่ายรูปมาเขียนบันทึกไว้สักหน่อย


       ผมได้ชาตัวนี้มาฟรีครับจากร้าน Tea Urchin ส่งมาตั้งแต่ต้นปี 2014 มาเป็น Mao Cha ซึ่งก็คือขาที่ยังไม่ได้อัดแผ่น มาเป็นเส้นๆใบๆเลยครับ


      ชาตัวนี้มาจากแหล่ง Manzhuan ซึ่งเป็นหนึ่งใน6เขาที่มีชื่อเสียง(เรื่องชาดี)สมัยโบราณ หรือเรียกว่า6เขาเก่า อยู่ทางตอนเหนือของเขายี่หวู่ Yiwu ลองดูตามแผนที่นะครับ


      จากข้อมูลของร้าน ชาตัวนี้เก็บจากต้นจากต้านชาอายุประมาณ 200 ปี ฤดูใบไม้ผลิ ราคาก่อนปี2014 นั้นถือว่าถูกเลยครับ แต่ตลาดชาป่าปี2014 นั้นปรับสูงขึ้นกันทุกแหล่ง ชาตัวนี้ก็ปรับขึ้น50-70% ทีเดียว ทำให้ราคาปัจจุบันค่อนข้างแพง แต่เมื่อเที่ยบกับชาแหล่งดังๆ อย่างยี่หวู่กัวเฟิงจ้าย หรือติงเจียจ้ายแล้วยังถือว่าราคายังห่างกันมาก
     ใบแห้งนั้นดูสมบูรณ์ ยาว สวยทีเดียว
      ชงดื่ม กลิ่นที่สัมผัสได้คือ มีกลิ่นหอม ออกไปทางดอกไม้ หอมอ่อนๆ ไม่มีกลิ่นเปรียว  รสชาตินั้น มีขมนิดๆน้อยมาก ขมแบบนี้ถือว่าอร่อยทีเดียว เมื่อกลืนลงคอได้รสหวานชัดเจน เท่าที่เคยลองดื่มชาแหล่งนี้จากปี2012สิ่งที่จับได้ชัดเจนคือความหวานค่อนข้างมีเอกลักษณ์ ไม่มีรสเปรี้ยว บอดีค่อนข้างหนา แต่ไม่ได้หนาเยอะนัก ดื่มลื่น โดยรวมอร่อยทีเดียว แต่เมื่อนำไปเที่ยบกับยี่หวู่กัวเฟิงจ้ายอาจจะยังสู้ไม่ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลด้วยครับ แนะนำเหมือนเดิมคือลองหามาชิมครับแล้วจะตัดสินใจได้เอง ชาตัวนี้ชงทนเลยแหละ 15+ น้ำ ยังมีความหวานชัดเจน





     

วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2559

รวมภาพงานเสวนาชิมชาครั้งที่2

ผ่านไปด้วยความสนุก อบอุ่น เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและมิตรภาพทกับงานลงก๊วนชิมชาครั้งที่2 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2559 หัวข้อในวันนี้คือชิมให้เห็นความแตกต่างระหว่างชาป่ากับชาไร่ ชิมแยกแยะด้วยประสบการณ์ของตัวเอง ซึ่งทั้งชาป่าและชาไร่ก็มีดีในตัวเอง














วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2559

Old Bush Wuye (TeaUrchin)

    ผมยังมีตัวอย่างชาอีกหลายตัวที่เหลือเก็บไว้เขียนลงblogแห่งนี้ วันนี้ลองค้นดูเจอชาตัวนี้ครับ old bush wuye oolong tea ตัวนี้เป็นชาตันฉงจากร้าน teaurchin เก็บลืมมาเกือบ 2 ปี ในจะนึกเสียดายเพราะ ชาพวก ตันฉง(Dancong) หรือ หวูหยีซาน (wuyeshan) หรือชาอู่หลงประเภทคั่วไฟแบบนี้ เก็บนาน กลิ่นมักจะจางหาย รสชามักจะมีความเปรี้ยวเนื่องจาก โดนความชื้นในอากาศ (ความเปรี้ยวเป็นหนึ่งในรสของชา ชาบางตัวมีความเปรี้ยวตั้งแต่ทำเสร็จใหม่ๆ ชาดีๆมักจะไม่มีรสเปรี้ยว) ตัวนี้เก็บลืมจริงๆ

    ว่าแล้วก็จัดการชงดื่มสักหน่อย กลิ่นใบแห้งนั้นหอมอ่อนๆคาดว่าคงจางหายตามกาลเวลา ลองชงเลยดีกว่า ผมใช้ชา5กรัม กับป้านใบเล็ก ประมาณ 60-70cc ใช้น้ำเดือดชง ออกน้ำเร็ว แช่ชาไม่เกิน10วินาทีในน้ำแรก น้ำถัดไปค่อยๆเพิ่มเวลาในการแช่ชา 


       กลิ่นนั้น หอมเหมือนน้ำผึ้ง  คละเคล้าด้วยกลิ่นดอกไม้ ไม่รุนแรงมาก แต่สุขขุม นุ่มลึก หอมหวานๆ เช่นเดียวกับ รสชา ที่ออกไปทาง หวานน้ำผึ้ง สัมผัสนุ่มนวลมาก กระตุ้นน้ำลาย หลังดื่ม ยังคงมีความหวานค้างในลำคอยาวนาน 
เป็นชาที่เด่นในเรื่องความหวาน ออกไปทางน้ำผึ้ง กับลิ้นจี่ ดื่มอร่อยมากครับ
และเป็นชาที่ชงทนมาก น้ำที่8กลิ่นลดลงไปมากแล้ว แต่ความหวานนั้นยังคงหวานชัด คาดว่าน่าจะชงได้อีกหลายน้ำเลยทีเดียว