วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2558


วันนี้จะชวนมารู้จักกับชาป่าสักหน่อยครับ ชาป่าที่เราดื่มกันนั้นส่วนใหญ่เป็นชาที่คนสมัยก่อนปลูกเอาไว้ ปลูกแบบปล่อยป่า ระยะเวลาผ่านไปเป็นร้อยปีคนรุ่นหลังจึงมีชาป่าอร่อยๆดื่มกัน ด้วยความที่อายุมากรากชาแทงลงดินลึก ดูดกินแร่ธาตุในดินได้มากส่งผลให้รสชาติของน้ำชาดี มีความซับซ้อนมากโดยที่ชาไร่ที่อายุน้อยๆไม่สามารถทดแทนได้แม้ว่าจะใช้ต้นแม่จากชาป่าต้นใหญ่ และเพาะปลูกในพื้นที่เดียวกัน 

ในการค้นหาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับชาป่าเพื่อให้ง่ายเราควรรู้จักkeywordเหล่านี้ครับ

1.พื้นที่แหล่งชา ด้วยสภาพภูมิอากาศ แร่ธาตุอาหารในดิน ลักษณะเฉพาะของแต่ละพื้นที่ รวมถึงสายพันธ์ชาที่แตกต่าง ส่งผลต่อรสชาติของชาเป็นอย่างมาก พื้นที่ไหนชารสชาติดีคนนิยมมากราคาก็จะสูงตาม ในยุคก่อนอาจแบ่งพื้นที่เป็นเป็นเขตกว้างๆเช่น ยี่หวู่ หลินชัง บู้หลาง สิบสองปันนา แต่ปัจจุบันแบ่งย่อยไปถึงระดับหมู่บ้าน หมู่บ้านใกล้ๆกันราคาชาอาจแตกต่างกันเป็นเท่าตัว เราจึงควรรู้จักชื่อหมู่บ้านเหล่านี้ เช่น กัวฟงจ้าย ติงเจียจ้าย วันกง ฯลฯ หมู่บ้านเหล่านี้อยู่ในเขตยี่หวู่ หมู่บ้านก็ไม่ไกลกันมากแต่ราคาต่างกันมาก ตัวอย่างเพิ่มเติมเช่น ปิงเต่า ปังตง อยู่ในเขตหลินชัง และมีอีกมากมาย ค้นไปเรื่อยๆก็จะทำความเข้าใจได้ไม่ยากครับ

2.ฤดูการเก็บเกี่ยว สำหรับชาผู่เอ๋อ ฤดูใบไม้ผลิ(spring) ถือเป็นชาที่คุณภาพดีที่สุดราคาสุงที่สุด. รองลงมาเป็นฤดูใบไม้ร่วง(autumn) ราคาจะถูกกว่าใบไม้ผลิ30-40% รสชาติมักจะจืดกว่า เวลาชงอาจต้องใส่ใบชาปริมาณมากกว่าหรือเวลาชงอาจต้องแช่นานกว่าใบไม้ผลิ สำหรับฤดูการอื่นไม่เป็นที่นิยมนัก 

3.อายุต้นชา ยิ่งอายุมากราคายิ่งสูง เนื่องจากชาอายุมากๆรากชาจะแทงลึกลงไปในดินมากสามารถดูดธาตุอาหารในดินได้มาก ส่งผลให้ได้ใบชารสชาติดี และมีความซับซ้อนของน้ำชามากตามอายุต้นชา ส่วนใหญ่ที่พบตามร้านขายชาป่า มักจะแบ่งช่วงราคาโดยจะสูงขึ้นตามอายุ เช่น 100-200 ปี ,300-500ปี ,1000ปีขึ้นไป. ส่วนช่วงอายุ 60-80ปีนั้นราคาจะไม่สูงมากครับ

เป็นข้อมูลคร่าวๆที่ไม่ลงลึก หวังว่าคงมีประโยชน์สำหรับมือใหม่ผู้เริ่มหาข้อมูลนะครับ. หากมีจุดผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยใว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น