ในช่วงปีใหม่นี้มีเรื่องวุ่นให้ต้องจัดการนิดหน่อย เหตุเนื่องมาจาก แมวจรที่เคยมาขออาหารกินบ่อยๆ ไม่รู้ไปประสบอุบัติเหตุอะไรมา นอนซมร้องอยู่หน้าบ้าน มีอาการคือขาหลังเดินไม่ได้ พาไปหาหมอจับเอ็กซเรย์ ปรากฏว่า กระดูกเชิงกรานหักต้องเข้ารับการผ่าตัดในวันที่ 4 มกราคมนี้ ขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี กลับมาวิ่งซนได้เหมือนเดิมด้วยเทอญ
วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2558
วันศุกร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2558
ชาผู่เอ๋อป่า พิมานวารี 2015 ใบไม้ผลิ(ทีดี) YIWU Ding Jia Zhai 2015 spring
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝนตกหนัก ได้จิบชาอุ่นๆนี่ดีไม่น้อย วันนี้เลือกชาผู่เอ๋อป่าจากเขายี่หวู่(YIWU) หมู่บ้านติงเจียจ้าย ซึ่งผมดื่มและติดใจมาตั้งแต่ปี 2012 ชาตัวนี้ผลิตภายใต้ยี่ห้อ ทีดี มีชื่อไทยว่า พิมานวารี
ชาแผ่นนี้เป็นชาฤดูใบไม้ผลิ 2015 เป็นชาใหม่ปีนี้เอง อัดแผ่นมาน้ำหนัก 200 กรัม ชาอัดมาไม่แน่นมากครับ แซะง่ายดี
สำหรับรสชาตินั้น ชาตัวนี้ไม่เคยทำให้ผิดหวัง มาตรฐานนั้นสูงทีเดียว ยิ่งปีนี้ 2015 นั้น ถือว่าดีกว่าปีก่อนมาก กลิ่นหอมหวาน อบอวลในปากและลำคอ นำชามีรสหวานคล้ายน้ำผึ้ง ไร้ความฝาด ขม เยี่ยมมากๆ
ชงทนกว่า10น้ำ+++
ที่สำคัญ จากที่ลองชิมมาหลายร้าน คุณภาพชาจากแหล่งชาที่นำมาผลิตเป็นชาแผ่นนี้ ไม่แพ้ร้านใด ออกจะดีกว่าซะด้วย ผู้ที่สนใจชาจากยี่หวู่ หมู่บ้านติงเจี้ยจ้าย ไม่จำเป็นต้องสั่งจากร้านในจีนให้เสียค่าส่งครับ

ชงทนกว่า10น้ำ+++

ป้ายกำกับ:
ชาผู่เอ๋อ,
ติงเจียจ้าย,
ทีดี,
ผู่เอ๋อ,
พิมานวารี,
ยี่หวู่,
Ding Jia Zhai,
pu erh,
tea,
Yi Wu
วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2558
Alishan High Mountain GABA Oolong Tea Spring 2015 (Taiwan Sourcing)
ชาตัวนี้เป็นอู่หลงกาบา ซึ่งใช้วิธีหมักแบบพิเศษ เพื่อดึงสารกาบาในชาออกมา ซึงสารกาบานี้มีประโยชน์หลายอย่าง ทั้งลดความดันเลือด รักษาความสมดุลในสมอง ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ ช่วยให้ผ่อนคลาย
การเก็บเกี่ยว:ฤดูใบไม้ผลิ 2015
พันธ์ุ:จินซวน
แหล่งเพาะปลูก:ภูเขา อาหลี่ซาน
ความสูง:1000M
ระดับการหมัก:30%
เปิดห่อชาออกลองดมดูใบชามีกลิ่นหอมอ่อนๆ
ชาตัวนี้ผมชงดื่มตั้งแต่น้ำแรกไม่่ได้ชงทิ้ง 1 น้ำเหมือนทั่วๆไป เพราะทางผู้ขายบอกว่าชาทำมาสะอาด และเป็นใบชาออแกนนิค ใช้น้ำอุณหภูมิประมาณ90องศาเซลเซียส ชงในไก้หว่าน(ที่ไม่ชงในกาดินเผาเพราะไม่อยากให้กลิ่นของชาถูกกาดินเผาดูดกลิ่นไป) เวลาในการแช่ชา น้ำแรก 30 วินาที และเพิ่มเวลาขึ้นเรื่อยๆในน้ำถัดไป
หลังจาก30วินาที รินน้ำชาออกกลิ่นหอมอ่อนๆก็โชยมาแตะจมูก ไม่รอช้าจิบชา กลิ่นหอมอบอวลในปากและลำคอ เป็นกลิ่นหอมคล้ายผลไม้แต่นึกไม่ออกว่าเหมือนผลไม้ชนิดได เป็นกลิ่นหอมที่พอดีๆ ไม่รุนแรง น้ำชานุ่มลื่นในระดับหนึ่งค่อนข้างดี บอดี้ออกไปทางหนา ชัด มีความหวานอ่อนๆในลำคอ
หลังดื่ม ยังคงมีกลิ่นหอม และความหวานค้างอยู่ในปากและลำคอสักพักใหญ่
หลังน้ำที่3 สัมผัสรสเปรี้ยวที่แฝงอยู่เล็กน้อย แต่ชัดเจน รสเปรี้ยวสำหรับชาผู่เอ๋อนั้นไม่ดีนัก แต่สำหรับชาอู่หลงนั้นผมก็ไม่แน่ใจ ต้องเรียนรู้กันไป แต่ที่แน่นๆผมไม่ชอบรสเปรี้ยวในน้ำชาเท่าไหร่
น้ำที่ 4 กลิ่นจางลงไปเยอะแล้ว แต่บอดี้ ความหวานยังใช้ได้
ชาตัวนี้อยู่ในเกรดกลางๆของชาใต้หวัน ชงได้ 5-7 น้ำ อร่อยดีโดยเฉพาะน้ำแรกๆ เป็นชาที่ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลายดีเลยครับ
วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2558
ในการค้นหาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับชาป่าเพื่อให้ง่ายเราควรรู้จักkeywordเหล่านี้ครับ
1.พื้นที่แหล่งชา ด้วยสภาพภูมิอากาศ แร่ธาตุอาหารในดิน ลักษณะเฉพาะของแต่ละพื้นที่ รวมถึงสายพันธ์ชาที่แตกต่าง ส่งผลต่อรสชาติของชาเป็นอย่างมาก พื้นที่ไหนชารสชาติดีคนนิยมมากราคาก็จะสูงตาม ในยุคก่อนอาจแบ่งพื้นที่เป็นเป็นเขตกว้างๆเช่น ยี่หวู่ หลินชัง บู้หลาง สิบสองปันนา แต่ปัจจุบันแบ่งย่อยไปถึงระดับหมู่บ้าน หมู่บ้านใกล้ๆกันราคาชาอาจแตกต่างกันเป็นเท่าตัว เราจึงควรรู้จักชื่อหมู่บ้านเหล่านี้ เช่น กัวฟงจ้าย ติงเจียจ้าย วันกง ฯลฯ หมู่บ้านเหล่านี้อยู่ในเขตยี่หวู่ หมู่บ้านก็ไม่ไกลกันมากแต่ราคาต่างกันมาก ตัวอย่างเพิ่มเติมเช่น ปิงเต่า ปังตง อยู่ในเขตหลินชัง และมีอีกมากมาย ค้นไปเรื่อยๆก็จะทำความเข้าใจได้ไม่ยากครับ
2.ฤดูการเก็บเกี่ยว สำหรับชาผู่เอ๋อ ฤดูใบไม้ผลิ(spring) ถือเป็นชาที่คุณภาพดีที่สุดราคาสุงที่สุด. รองลงมาเป็นฤดูใบไม้ร่วง(autumn) ราคาจะถูกกว่าใบไม้ผลิ30-40% รสชาติมักจะจืดกว่า เวลาชงอาจต้องใส่ใบชาปริมาณมากกว่าหรือเวลาชงอาจต้องแช่นานกว่าใบไม้ผลิ สำหรับฤดูการอื่นไม่เป็นที่นิยมนัก
3.อายุต้นชา ยิ่งอายุมากราคายิ่งสูง เนื่องจากชาอายุมากๆรากชาจะแทงลึกลงไปในดินมากสามารถดูดธาตุอาหารในดินได้มาก ส่งผลให้ได้ใบชารสชาติดี และมีความซับซ้อนของน้ำชามากตามอายุต้นชา ส่วนใหญ่ที่พบตามร้านขายชาป่า มักจะแบ่งช่วงราคาโดยจะสูงขึ้นตามอายุ เช่น 100-200 ปี ,300-500ปี ,1000ปีขึ้นไป. ส่วนช่วงอายุ 60-80ปีนั้นราคาจะไม่สูงมากครับ
วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2558
วางแผนซื้อชาในยุคชาแพง
เป็นเรื่องที่น่าหนักใจไม่น้อย ที่ราคาชาผู่เอ๋อป่ามีแนวโน้มจะแพงขึ้นในทุกปี ยิ่งเป็นชาปีเก่าหน่อยราคาก็ปรับตัวสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด คนดื่มชาตัวน้อยๆอย่างเราจึงต้องทำการบ้านหนักขึ้นวางแผน ซื้อดื่มและซื้อเก็บให้เหมาะสมกับเงินในกระเป๋า แนวทางของผมนั้นจะยึดหลักดังนี้
1.ท่องประโยคนี้ให้ขึ้นใจ "ชาเป็นของฟุ่มเฟือย" ไม่มีชาดื่มเราก็อยู่ได้ แต่ถ้าไม่มีเงินซื้อข้าวกินเราตาย
2.ส่วนตัวผมนั้นชอบดื่มชาผู่เอ๋อป่า ทั้งชาใหม่และชาเก่า ตั้งนั้นต้องคิดให้ดีว่าจะซื้อตัวไหน จำนวนเท่าไหร่ เหตุที่ต้องซื้อเก็บเพราะถ้าผ่านไปสักปีสองปีแล้ว ราคาชาตัวนี้จะสูงขึ้นจนซื้อไม่ลง ยิ่งถ้าอยากได้ชากลางเก่ากลางใหม่(อายุสัก5ปีขึ้นไป)แทบจะหาซื้อไม่ได้เลย ถ้ามีราคาก็คงเกินเอื้อมไปไกล ดังนั้นอยากดื่มชาเก่าต้องเก็บเอง
3.การตัดสินใจซื้อชาตัวไหนต้องได้ชิมเสียก่อน เนื่องจากชาผู่เอ๋อนั้นแผ่นหนึ่งก็หลายร้อยกรัม อย่าเสี่ยงซื้อมาหากไม่ได้ชิม ซึ่งไม่ใช่ปัญหาใหญ่เพราะในเมืองไทย ร้านชาอย่างร้านทีดี ต้าอี้ไทย หรืออีกหลายๆร้านก็ยินดีให้เราชิมชาแทบทุกตัวที่ร้านนำมาขายแถมยังฟรีอีกต่างหาก ส่วนร้านชาต่างประเทศนั้นผมใช้วิธีซื้อตัวชิมมาลองก่อน สนใจตัวไหนสั่งมาลองชอบแล้วค่อยซื้อเต็มแผ่น เปลื่องค่าส่งหน่อยแต่คุ้มว่าแน่เพราะที่เคยสั่งมาชิมเป็นสิบตัว จะเจอตัวที่เราชอบแค่2-3ตัวเท่านั้น อีกหนทางหนึ่งก็คือหากลุ่ม สมาคม แล้วขอเพื่อนชิมเอา(อันนี้ผมทำบ่อย) แบ่งๆกันเอาของเราไปชิมบ้าง ของเพื่อนบ้าง แล้วช่วยกันลงความเห็น
4.ชาตัวที่ซื้อเยอะที่สุดคือตัวที่ชอบ และดื่มได้บ่อยที่สุด ในราคาที่สามารถจ่ายได้ทุกวัน ลองหารราคาต่อกรัมดู ผมใช้วิธีเลิกดื่มกาแฟ เอาเงินส่วนนั้นมาเป็นค่าชาต่อวันแทน
5.พยายามซื้อชาตัวที่เราชอบแม้ว่ามันจะแพง ถึงแม้จะได้ปริมาณน้อย ก็ดีกว่าซื้อชาราคาถูกแต่เราไม่ชอบมัน ข้อนี้ก่อนตัดสินใจให้ท่องข้อ1ไว้
6.เก็บชาให้ดี นำออกมาชงดื่มกับเพื่อนๆบ้างเพื่อเช็คดูความเปลี่ยนแปลงของชาซึ่งจะพบว่าชาตัวเดิมรสชาติจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆมีอะไรให้ค้นหาเรื่อยๆ และเพื่อเช็คว่าเราเก็บชาได้ดีไหมเวลาจะบอกคุณเอง(ลุ้นมากตรงจุดนี้) ชาตัวเดียวกันเก็บต่างบ้านกันกลิ่นและรส ไม่เหมือนกันเลย ยิ่งเก็บนานยิ่งชัดเจน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)