วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2558
วางแผนซื้อชาในยุคชาแพง
เป็นเรื่องที่น่าหนักใจไม่น้อย ที่ราคาชาผู่เอ๋อป่ามีแนวโน้มจะแพงขึ้นในทุกปี ยิ่งเป็นชาปีเก่าหน่อยราคาก็ปรับตัวสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด คนดื่มชาตัวน้อยๆอย่างเราจึงต้องทำการบ้านหนักขึ้นวางแผน ซื้อดื่มและซื้อเก็บให้เหมาะสมกับเงินในกระเป๋า แนวทางของผมนั้นจะยึดหลักดังนี้
1.ท่องประโยคนี้ให้ขึ้นใจ "ชาเป็นของฟุ่มเฟือย" ไม่มีชาดื่มเราก็อยู่ได้ แต่ถ้าไม่มีเงินซื้อข้าวกินเราตาย
2.ส่วนตัวผมนั้นชอบดื่มชาผู่เอ๋อป่า ทั้งชาใหม่และชาเก่า ตั้งนั้นต้องคิดให้ดีว่าจะซื้อตัวไหน จำนวนเท่าไหร่ เหตุที่ต้องซื้อเก็บเพราะถ้าผ่านไปสักปีสองปีแล้ว ราคาชาตัวนี้จะสูงขึ้นจนซื้อไม่ลง ยิ่งถ้าอยากได้ชากลางเก่ากลางใหม่(อายุสัก5ปีขึ้นไป)แทบจะหาซื้อไม่ได้เลย ถ้ามีราคาก็คงเกินเอื้อมไปไกล ดังนั้นอยากดื่มชาเก่าต้องเก็บเอง
3.การตัดสินใจซื้อชาตัวไหนต้องได้ชิมเสียก่อน เนื่องจากชาผู่เอ๋อนั้นแผ่นหนึ่งก็หลายร้อยกรัม อย่าเสี่ยงซื้อมาหากไม่ได้ชิม ซึ่งไม่ใช่ปัญหาใหญ่เพราะในเมืองไทย ร้านชาอย่างร้านทีดี ต้าอี้ไทย หรืออีกหลายๆร้านก็ยินดีให้เราชิมชาแทบทุกตัวที่ร้านนำมาขายแถมยังฟรีอีกต่างหาก ส่วนร้านชาต่างประเทศนั้นผมใช้วิธีซื้อตัวชิมมาลองก่อน สนใจตัวไหนสั่งมาลองชอบแล้วค่อยซื้อเต็มแผ่น เปลื่องค่าส่งหน่อยแต่คุ้มว่าแน่เพราะที่เคยสั่งมาชิมเป็นสิบตัว จะเจอตัวที่เราชอบแค่2-3ตัวเท่านั้น อีกหนทางหนึ่งก็คือหากลุ่ม สมาคม แล้วขอเพื่อนชิมเอา(อันนี้ผมทำบ่อย) แบ่งๆกันเอาของเราไปชิมบ้าง ของเพื่อนบ้าง แล้วช่วยกันลงความเห็น
4.ชาตัวที่ซื้อเยอะที่สุดคือตัวที่ชอบ และดื่มได้บ่อยที่สุด ในราคาที่สามารถจ่ายได้ทุกวัน ลองหารราคาต่อกรัมดู ผมใช้วิธีเลิกดื่มกาแฟ เอาเงินส่วนนั้นมาเป็นค่าชาต่อวันแทน
5.พยายามซื้อชาตัวที่เราชอบแม้ว่ามันจะแพง ถึงแม้จะได้ปริมาณน้อย ก็ดีกว่าซื้อชาราคาถูกแต่เราไม่ชอบมัน ข้อนี้ก่อนตัดสินใจให้ท่องข้อ1ไว้
6.เก็บชาให้ดี นำออกมาชงดื่มกับเพื่อนๆบ้างเพื่อเช็คดูความเปลี่ยนแปลงของชาซึ่งจะพบว่าชาตัวเดิมรสชาติจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆมีอะไรให้ค้นหาเรื่อยๆ และเพื่อเช็คว่าเราเก็บชาได้ดีไหมเวลาจะบอกคุณเอง(ลุ้นมากตรงจุดนี้) ชาตัวเดียวกันเก็บต่างบ้านกันกลิ่นและรส ไม่เหมือนกันเลย ยิ่งเก็บนานยิ่งชัดเจน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)